รีวิว Vantec NexStar SX กล่องใส่ SSD M.2 PCIe

มันคือ... กล่องที่เอาไว้ใส่ SSD แบบ M.2 PCIe แล้วทำให้เป็น External SSD เสียบ USB

เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ External ที่โอนไฟล์เร็วๆ ไม่ต้องกลัวตกแล้วพัง

อุปกรณ์ที่เขามีมาให้ใน... กล่อง

ก็จะมีสาย USB Type C To Type C

เพราะว่ารูเสียบที่ตัว NexStar SX เป็น USB Type C ความเร็ว 10 Gbps (3.1 Gen 2)

ต่อมาก็เป็นตัวกล่อง External Box และแผงวงจรที่อยู่ในนั้นแล้ว

สกรูสำหรับยึด SSD เข้ากับแผงวงจร

สกรูสำหรับปิดฝากล่อง

ฮีทซิงค์และซิลิโคนแผ่น

สุดท้ายก็ไขควง (อันนี้ดี ไม่ต้องไปหาเครื่องมือมาประกอบ)

วิธีการประกอบ อย่างแรกก็แกะวงจรออกมาจากตัวกล่อง

จะเห็นว่ารองรับความยาว SSD ตั้งแต่ 2230 2242 2260 จนถึง 2280

ใส่ SSD ลงไป เหมือนกับใส่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ปกติ

SSD ที่รองรับจะเป็นแบบ M.2 PCI Express เท่านั้น อย่างเช่น Samsung 970 EVO

ไม่รองรับแบบ M.2 SATA อย่างเช่น WD Green

ต่อไปก็ยึดตัว SSD เข้ากับแผงวงจร ท่ามันจะแปลกๆ นิดนึง

เสร็จแล้วก็ลอกแผ่นพลาสติกที่ซิลิโคน แปะลงไปบนตัว SSD

ใส่กลับเข้าไปในกล่อง

แผ่นอลูมิเนียมจะสัมผัสกับ SSD และตัวกล่อง ช่วยในการระบายความร้อน

ปิดฝาๆ

จะเห็นว่ามีสวิตช์ Write Protect ด้วย ทำให้อ่านไฟล์อย่างเดียว เขียนไม่ได้

คล้ายๆ กับที่มันอยู่ข้างๆ SD Card อะไรแบบนั้น

ต่อสายเสียบคอมใช้ได้เลยจ้า

แต่ข้อเสียของกล่องรุ่นนี้คือไม่แถมสาย Type C To Type A มาให้ ใครที่จะเอาไปเสียบกับเครื่องเก่าๆ ก็ต้องไปหาสายมาเอง เส้นนี้ผมสั่งมาร้อยกว่าบาท

ในส่วนของความเร็ว ผมเสียบทดสอบกับช่อง USB C ของบอร์ด ASUS Z370-E STRIX
SSD ที่ใส่ในกล่องเป็น WD Black 1TB

แต่อันนี้ผมไม่ได้ใส่ตัวแผ่นอลูมิเนียม ทำให้ตัวไดร์ฟร้อน

 มาลองกับ SSD อีกตัวบ้าง เป็น ADATA SX8200 240GB

รอบนี้ใส่แผ่นอลูมิเนียมแล้ว เย็นจัดดดดดดด (ปกติเวลาใช้ในเครื่องก็ 50-60 องศา)

ใครที่เอาไปบันทึกหรือโอนงานวิดีโอ ก็ใช้ได้สบายๆ ยกเว้นงานที่โหดจริงๆ

ความเร็ววิ่งเกือบเต็ม USB 3.1 Gen 2 ที่ 10 Gbps

การทดสอบทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าตัวกล่องสามารถทำความเร็วได้เกือบเต็มพอร์ท USB

แต่ความเร็วที่ใช้ได้จริง ก็ขึ้นอยู่กับ SSD ที่ท่านนำมาใส่ด้วย

ส่วนราคาขายเจ้าตัวกล่องนี้ อยู่ที่ 1,390 บาท

จบแล้วจ้า ขอขอบคุณ Connext It ที่ส่งมาให้ทดสอบ
เดี๋ยวมีรีวิวรุ่น M.2 SATA กับ 2.5" ตามมานะฮะ